จากกระแสข่าวการนิยมกินเพรียงทะเลของชาวบ้าน ด้วยเชื่อว่าเพรียงทะเลมีสรรพคุณเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย และช่วยให้มดลูกของผู้หญิงแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะการกินเพรียงทะเลสด!
ใครไม่รู้จัก เพรียงทะเล บ้าง? บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ เพรียงทะเล ที่ว่านี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย
เพรียงคืออะไร

เพรียง เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มักอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ และมักจะถูกเรียกว่าเพรียงทำลายไม้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่น้ำเค็มและน้ำกร่อย แบ่งเป็น เพรียงทะเล (Marine borers) และ เพรียงน้ำจืด (Fresh-water marine borers)
เพรียงทะเล (Marine borers)
เพรียงทะเล เป็นสัตว์จำพวกหอย 2 ฝา ทำลายไม้โดยการกัดผิวนอกของไม้ให้เป็นรู มี 2 จำพวก คือ
- ชนิด Shipworms หรือ teredinid มีลักษณะคล้ายกับไส้เดือน มีหัวกลมคล้ายเปลือกหอย ใช้ในการเจาะไชเปลือกไม้ในขณะที่ปลายลำตัวอีกฝั่งจะทำหน้าที่ในการยึดเกาะไว้กับวัสดุที่แข็งแรง ก่อนจะนำตัวเข้าไปฝังอยู่ภายในเนื้อไม้ เพรียงทะเลมีหลายชนิดกระจายกันอยู่ในบริเวณน้ำเค็มทั่วไป ในประเทศไทยมักจะพบเพรียงทะเลในน้ำเค็มและน้ำกร่อย
- เพรียงชนิด Pholads หรือ Piddock มีลักษณะเหมือนกาบหอย แต่จะมีขนาดเล็กกว่า เพรียงชนิดนี้จะฝังตัวอยู่ในไม้ที่อยู่ในน้ำเค็มหรือตามซอกหินต่าง ๆ
เพรียงน้ำจืด
สามารถพบเพรียงน้ำจึดได้ตามแหล่งน้ำจืดทั่วไป เช่น แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ ห้วย หนอง คู คลอง ซึ่งเพรียงชนิดนี้เป็นแมลงจำพวก ตัวชีปะขาว โดยการทำลายไม้จะเกิดจากตัวอ่อนแรกเกิดของชีปะขาวฝังตัวเข้าในไม้ที่แช่อยู่ในน้ำ เพื่อใช้สำหรบเป็นแหล่งอาศัย และด้วยชีปะขาวออกไข่ทีละนับล้านฟอง ทำให้เกิดความเสียหายต่อไม้ที่ยังคงใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ หากไม่ได้ทำการอาบน้ำยาป้องกัน เช่น โป๊ะเรือ ท้องเรือที่แช่น้ำนาน ๆ แพเรือ เป็นต้น
เพรียงทะเลกินได้ไหม
เพรียงทะเล หรือ หนอนไม้ นับว่าเป็นอาหารอันโอชะ หายาก และราคาแพง โดยเพรียงทะเลราคาในท้องตลาดมีการรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 – 1,200 บาท สำหรับชาวประมงพื้นบ้าน โดยส่วนใหญ่จะพบในไม้โกงกาง และยังคงมีจำวนมากใน จ.กระบี่ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะนิยมนำมาประกอบอาหารในเมนูต่าง ๆ ทั้งลวกยำ ต้ม แกง คั่ว ผัด และยังนิยมกินสด ๆ เพราะเชื่อว่า เพรียงทะเลสรรพคุณเพิ่มพลังความเป็นชายให้แข็งแรง
เพรียงทะเลอันตรายไหม

นพ.สมพงษ์ ชัยโอภานนท์ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิด้านโชนาการ กรมอนามัย ได้กล่าวว่า แม้ว่าเพรียงทะเลจะสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ และในเพรียงทะเลมีแร่ธาตุสังกะสี ที่เป็นสารต้านการอักเสบ มีไขที่ไปช่วยสร้างฮอร์โมนเพศชาย และมีไขมันดีคือโอเมกา 3 และโอเมกา 6 ช่วยในเรื่องฮอร์โมนเพศหญิง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะในเพรียงทะเลมีไขมันเลวเช่นกัน อีกทั้งยังมีคอเลสเตอรอลสูง หากรับประทานเพรียงทะเลมาก ๆ จะส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดหัวใจ ระบบการไหลเวียนเลือดมีปัญหา เส้นเลือดตีบตัน และอาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงได้เช่นกัน และกระแสที่ทานเพรียงทะเลสด ๆ เพื่อเสริมพลังทางเพศ ยิ่งต้องระวัง เพราะอาจทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรง หรือติดเชื้อได้ เนื่องจากในน้ำทะเลมีเชื้อที่ก่อให้เกิดท้องร่วงได้ และมีหนอนพยาธิบางประเภท จึงไม่ควรกินเพรียงทะเลสด แต่ควรปรุงสุกให้ก่อน และอย่ากินให้มากเกินไป
นพ.สมพงษ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติร่างกายคนเราต้องการสังกะสีไม่เกิน 40 มิลลิกรัม / วัน และเรามักจะได้รับสังกะสีจากอาหารที่ทานกันอยู่แล้ว อาทิเช่น ผักใบเขียว ผักโขม มะเขือเทศ ข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ข้าวสาลี มันฝรั่ง ฟักทอง ถั่วลิสง เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นหากเราได้รับปริมาณสังกะสีมากเกินไป จะทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย โดยอันตรายที่เกิดขึ้นกับร่างกายในระยะสั้นที่ได้รับสังกะสีเกิน 150 มิลลิกรัม อาจทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องร่วง ส่วนผลกระทบในระยะยาว อาจทำให้เป็นโรคโลหิตจาง ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ เนื่องจากธาตุสังกะสีที่มีมากเกินไปจะไปแย่งจับธาตุเหล็กและทองแดงในเลือด ส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจาง ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ถ้าเป็นสตรีมีครรภ์ก็จะยิ่งเสี่ยงให้กำเนิดทารกพิการ หรือทารกแท้งในครรภ์ได้
สรุป
ดังนั้นการกินเพื่อหวังให้พลังทางเพศมีประสิทธิภาพ หรือเพื่อต้องการธาตุสังกะสี ควรรับประทานอาหารหลากหลายเมนูให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ควรมุ่งหวังจากการกินเพรียงทะเล โดยเฉพาะการกินเพรียงทะเลสด เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลดีตามที่เชื่อต่อ ๆ กันมาแล้ว ยังเสี่ยงต่ออันตรายด้านสุขภาพจนอาจถึงแก่ชีวิตได้ จึงควรกินเพรียงทะเลปรุงสุกและกินแต่พอดี
