โรคเบาหวาน ในหลายคนที่ไม่แสดงอาการ แต่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ หากไม่เคยทำการตรวจเลือดระดับน้ำตาลในเลือดเลย ก็จะไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นเบาหวาน จนกว่าอาการโรคเป็นมากขึ้นจนแสดงให้เห็นชัด แต่นั่นก็อาจสายเกินกว่าจะรักษาได้ทันเสียแล้ว ดังนั้น การคอยสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตน และพตฤติกรรมที่นอกเหนือการควบคุม เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานหรือไม่ จะช่วยให้รู้และรักษาได้ทันก่อนสายเกินแก้ เรามาดูกันดีกว่าว่าหากน้ำตาลในเลือดสูง อาการอย่างไรที่เข้าข่าย และกำลังส่งสัญญาณเตือนเราอยู่

1. ปัสสาวะบ่อยมากกว่าปกติ
ปริมาณน้ำตาลในเลือดปกติควรอยู่ระหว่าง 70-100 มิลลิกรัม / เดซิลิต แต่เมื่อไรที่มีน้ำตาลในเลือดมากเกินไป ร่างกายจะกรองและกำจัดน้ำตาลออกทางปัสสาวะ ทำให้ไตต้องดึงน้ำออกมา ยิ่งมีน้ำตาลในเลือดมากเท่าไร ยิ่งทำให้มีการขับน้ำตาลออกมาเท่านั้น ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยมากขึ้นทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น ส่งกระทบต่อสุขภาพการนอนหลับ และปัญหาอื่น ๆ ตามมาจากการนอนหลับไม่เพียงพออีกด้วย

2. กระหายน้ำมากขึ้น
เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำไปมากจากการปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอที่ร่างกายต้องการ จะทำให้รู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้มากขึ้น และบ่อยขึ้น เพื่อชดเชยปริมาณน้ำที่ได้เสียไปพร้อมกับปัสสาวะ

3. อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
เมื่อเกิดภาวะขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ อีกทั้งยังสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายต้องดึงไขมันและโปรตีนที่เก็บสะสมในเนื้อเยื่อออกมาใช้แทน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และน้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ

4. หิวบ่อย กินบ่อยขึ้น
หากไม่ใช่คนที่กินเก่งหรือกินจุกจิก แต่จู่ ๆ กลับรู้สึกหิวบ่อย หรือต้องการกินอยู่เรื่อย ๆ นั่นเป็นเพราะร่างกายสูญเสียพลังงาน จึงแสดงอาการออกมาเพื่อให้เราเติมพลังงานจากอาหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกายนั่นเอง

5. อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย
หากไม่ใช่นิสัยเจ้าอารมณ์หรือโกรธง่ายเป็นทุนเดิม แต่จู่ ๆ เกิดมีอารมณ์สวิง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โมโหง่ายขึ้น ฉุนเฉียวบ่อยขึ้น อาการแบบนี้เกี่ยวเนื่องกับระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่คงที่ด้วยเช่นกัน

6. ผิวแห้ง คันตามตัว คันบริเวณช่องคลอด
ผิวหนังแห้ง แตกลาย รู้สึกคันบริเวณผิวหนัง อาจคันตามตัว รู้สึกระคายเคืองผิวหนัง หรือบางคนอาจคันบริเวณช่องคลอด ก้น ง่ามขา และขาหนีบ บางรายอาจมีอาการคันรุนแรงและเกาจนเป็นแผล ทำให้มีปัญหาผิวหนังตามมาได้เช่นกัน

7. ตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน
สำหรับคนที่มีสายตาปกติแต่จู่ ๆ กลับรู้สึกมองเห็นภาพเบลอ ไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อนกัน สายตาพร่ามัวบ่อย ๆ อาจเป็นอีกสัญญาณเตือนว่าควรไปเช็คระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้ว

8. ชาปลายมือ ปลายเท้า ขาชา
รู้สึกชาที่มือ เท้าชา หรือมีอาการขาชา บ่อย ๆ หรือนั่ง ๆ อยู่ก็รู้สึกชาที่ขา เท้า หรือมือชา ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากปลายประสาทเสื่อม

9. เป็นแผลง่าย หายช้า
มักจะเป็นแผลได้ง่ายขึ้น บ่อยครั้งที่ได้แผลไม่รู้ตัว และเมื่อเป็นแผลก็หายช้า หายยาก หรือกว่าแผลจะแห้งสนิทก็ใช้เวลานานกว่าปกติ เป็นแผลสดนานไม่ขึ้นสะเก็ดสักที