ข้อดีที่คุณจะได้จากการถูก “ปฏิเสธ” มีอะไรบ้าง

ไม่มีใครอยากถูกปฏิเสธ เพราะเมื่อถูกปฏิเสธ เรามักจะมีแต่ความรู้สึกทางลบตามมา ทั้งการผิดหวัง เสียใจ โกรธ รู้สึกผิด และอื่น ๆ แต่รู้ไหมว่า การถูกปฏิเสธ อาจนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่า คนส่วนใหญ่มักจะตกอยู่กับอารมณ์ที่คุกรุ่นจากการถูกปฏิเสธ จนมองไม่เห็นถึงข้อดีที่แฝงซ่อนอยู่ ทำให้พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย  

สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ถูกปฏิเสธบ่อย ๆ จนมองเห็นว่ามันเป็นเรื่อง ธรรมดา จะสามารถมองหาประโยชน์จากการโดนเซย์ NO ได้โดยไม่เสียเปล่าไปเลยทีเดียว เพราะหลายครั้งที่โดนปฏิเสธ พวกเขาจะนำมาไตร่ตรอง และมองหาจุดบกพร่องที่เป็นต้นเหตุของการไม่ success แล้วนำไปพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข หรือมองหาเส้นทางที่ดีกว่า และหลายคนที่ประสบผลสำเร็จได้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือเจอสิ่งที่ดีกว่าเดิม จากที่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? นั่นเป็นเพราะว่า โลกต้องการเหวี่ยงให้เราไปเจอสิ่งที่ดีกว่า นั่นเอง 

ทำไมเราจึงมาบอกว่า การถูกปฏิเสธ อาจไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป และอาจมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เรามีข้อดีจากการถูกปฏิเสธมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านและลองนำไปพิจารณา เผื่อปรับใช้ในชีวิต และอาจเป็นการพลิกโอกาส จากร้ายให้กลายเป็นดียิ่งกว่าเดิม เรามาดูกันว่า ข้อดีจากการ “ถูกปฏิเสธ” มีอะไรบ้าง 

ทำให้ดึงศักยภาพของตนออกมาจนนำพาไปสู่ทางที่ดีกว่า 

คนที่ไม่ค่อยได้เจอหรืออยู่ในจุดที่ไม่ได้ถูกปฏิเสธ จะเคยชินกับเซฟโซนที่เป็นจุดสบายตัวไปเรื่อย ๆ จนอาจล่วงเลยเวลาที่สามารถดึงเอาศักยภาพตนเองมาพัฒนา หรือออกแบบชีวิตตนเองได้มากกว่าที่เป็น ต่างจากเมื่อโดนปฏิเสธ ที่จะทำให้มีการดึงศักยภาพของตนออกมา เพื่อความอยู่รอด อันเป็นสัญชาติญาณในการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โดยเฉพาะมนุษย์ มีสมองที่คอยคำนวณหาทางรอดโดยอัตโนมัติ ดูได้จากเส้นทางของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจระดับแนวหน้า เจ้าของกิจการ หรือเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน ล้วนแต่เคยผ่านการถูกปฏิเสธมานักต่อนัก ทำให้ต้องดิ้นรนหาหนทางเพื่อความอยู่รอด จับพลัดจับผลู ลองผิดลองถูก ได้ดึงศักยภาพตนเองมาใช้อยู่ตลอด จนกระทั่งประสบความสำเร็จในที่สุด 

อย่างประวัติของเจ้าของกิจการรายใหญ่ท่านหนึ่ง เคยถูกทางบ้านปฏิเสธให้การช่วยเหลือใด ๆ อีกต่อไปเมื่อครั้งเป็นวัยรุ่น ทำให้เขาต้องหางานทำเพื่อมีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน สมัครงานหลายที่แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะเรียนไม่จบ เขาจึงมานั่งคิดหาเหตุผลที่สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ทำให้เขารู้ว่าเขาเรียนไม่จบ เขาจึงไปสมัครเป็นลูกมือช่างซ่อมรถในอู่เล็ก ๆ โดยมีหน้าที่คอยช่วยหยิบจับส่งอุปกรณ์และงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในอู่ โดยคอยเรียนรู้งานทุกอย่างที่ช่างรถควรรู้ไปในตัว จนสามารถซ่อมรถได้ กลายเป็นช่างซ่อมรถที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว จนได้เปิดกิจการอู่รถเป็นของตนเอง และขยายกิจการมีหลายสาขาในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ 

จึงเห็นได้ว่าการถูกปฏิเสธจะทำให้เราหาทางเอาตัวรอด ด้วยการดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้จนประสบความสำเร็จ โดยที่อาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะมีความสามารถได้ขนาดนี้ 

ทำให้กลายเป็นคน Think Positive หรือ คิดบวก มากขึ้น 

โดยปกติของคนเราที่ไม่มีเหตุการณ์ใดมากระทบความรู้สึก จะไม่รู้สึกถึงการคิดบวกหรือคิดลบ แต่เมื่อไรที่ถูกปฏิเสธ เราจะมีความรู้สึกและคิดลบเกิดขึ้นทันที อันเนื่องมาจากความผิดหวัง เสียใจ หรือโกรธ ที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ แต่ถ้าเราฝึกที่จะมองความเป็นจริง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ การมี thinking positive จะช่วยให้เราได้เห็นปัญหาในหลายแง่มุม เห็นภาพได้ชัดและเข้าใจได้ง่ายขึ้น อะไรคือความคิดบวก อะไรคือความคิดลบ จากประสบการณ์โดยตรงจะช่วยให้เข้าใจว่าทำไมเราจึงควรฝึกเป็นคนคิดบวก 

มีความมั่นใจ กล้าที่จะเผชิญปัญหาได้มากขึ้น

หากเราเข้าใจว่าการถูกปฏิเสธเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนสามารถเจอได้เสมอ และอาจต้องเจออีกเมื่อไรก็ได้ เมื่อเข้าใจดังนี้จะทำให้เราไม่ไปให้ความสนใจและจมกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการถูกปฏิเสธจนมากเกินไป ยิ่งเรารู้การปฏิเสธก็อาจมีข้อดีแอบซ่อนอยู่ ยิ่งทำให้เราไม่กลัวที่ถูกปฏิเสธมากเกินไปจนไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไร แต่จะกล้าลุยต่อแม้ว่าจะถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อจะได้เรียนรู้และนำไปพัฒนาตนเอง จนอาจกลายเป็นคนใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม 

เป็นคนเข้มแข็ง มีความแข็งแกร่ง สามารถจัดการปัญหาได้เก่งขึ้น 

จากประโยค “ผิดเป็นครู” และ “ประสบการณ์จะช่วยให้เราแกร่งขึ้น” เป็นเรื่องจริงอย่างมาก เพราะความผิดพลาดจะช่วยให้เรารู้ถึงข้อบกพร่อง และจะไม่ทำแบบนั้นเพื่อให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องเดิมอีก และประสบการณ์ที่ต้องผิดหวัง หรือเสียใจ จากการถูกปฏิเสธ จะทำให้เรานำสิ่งเหล่านี้ไปพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ถูกปฏิเสธอีก ไม่ว่าจะเป็นการหาความรู้ การไปฝึกฝนตนเอง เพิ่มสกิลประสิทธิภาพของตน ทำให้กลายเป็นคนที่เก่งและมีคุณภาพมากขึ้น และสามารถจัดการปัญหาได้อย่างชาญฉลาดขึ้น 

เปิดโอกาสให้เราได้เจอสิ่งที่ดีกว่าหรือหนทางที่ดีกว่าเดิม 

เมื่อถูกปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นการถูกปฏิเสธจากงาน ปฏิเสธจากคน ทำให้เราสามารถรู้คำตอบได้อย่างรวดเร็ว ว่าสิ่งนี้ งานนี้ หรือคนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะเสียเวลารอ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลา และสามารถหันเหไปหางาน หาคน หรือสิ่งที่ดีกว่า ที่สามารถเติมเต็มและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ได้มากกว่า เพราะการถูกปฏิเสธ แสดงว่าสิ่งนั้นไม่คู่ควร หรือไม่ใช่ของเรา โลกก็จะเหวี่ยงเราไปเจอกับสิ่งที่ใช่และเหมาะกับเรามากกว่าเสมอ มีตัวอย่างมากมาย ที่คนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เคยถูกดูถูกและปฏิเสธงานมานับไม่ถ้วน หรือแม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ได้คู่ครองดีจนใคร ๆ อิจฉา แต่พวกเขาเหล่านั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนจะมาเจอคู่ครองที่ดีเลิศคนนี้ พวกเขาเคยเจอคนที่ไม่ดี หรือเคยถูกปฏิเสธมาก่อน และพวกเขานึกขอบคุณคนที่เคยปฏิเสธพวกเขา จึงทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าในปัจจุบัน  

เห็นได้ว่า การถูกปฏิเสธ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต และอาจมีสิ่งดี ๆ หรือโอกาสที่ดีกว่าแอบแฝงอยู่ เพียงแต่เราต้องเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติและธรรมดามาก ๆ ที่เกิดขึ้นได้เสมอ รู้จักที่จะยอมรับ คิดบวก และเรียนรู้จากการถูกปฏิเสธ เพื่อเสริมเกราะให้ตัวเราแข็งแกร่ง กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาและความผิดหวัง เพราะคนที่จะได้ประโยชน์จากการถูกปฏิเสธคนแรก คือ ตัวเราเอง ดังนั้น จงอย่ากลัวที่จะถูกปฏิเสธ แต่จงหาข้อดีจากการถูกปฏิเสธที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม